เมื่อการพิมพ์การ์ดเชิญยังคงสำคัญ แต่อยากประหยัดงบประมาณ ควรทำอย่างไรดี

โลกในวันนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วด้วยอิทธิพลของเทคโนโลยี ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป ประเพณีวัฒนธรรมหลาย ๆ อย่างที่เคยปฏิบัติกันมาจึงต้องมีการปรับด้วยเช่นกัน ในสมัยก่อนบ้านไหนจะมีงานพิธีสำคัญอันเป็นมงคลอย่างงานบวช งานแต่งงานก็จะต้องมีการให้โรงพิมพ์รับพิมพ์การ์ดเชิญแขกมาร่วมงานเป็นสักขีพยาน เวลาพิมพ์การ์ดก็จะพิมพ์จำนวนมาก ๆ เพื่อให้เพียงพอต่อการเชิญแขก

แต่ในปัจจุบันสิ่งเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไป ส่วนหนึ่งเพราะวิถีชีวิตของผู้คนในยุคนี้เริ่มแยกตัวเป็นครอบครัวเดี่ยวเล็ก ๆ กันมากขึ้นไม่ได้อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่แบบในสมัยก่อน และการจัดงานพิธีต่าง ๆ จึงเปลี่ยนมาเป็นการจัดงานพิธีเล็ก ๆ เชิญแขกมาร่วมงานไม่กี่คน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนสนิท เมื่อจำนวนแขกที่จะเชิญมาร่วมงานไม่มาก การจะพิมพ์การ์ดเชิญแบบปกติจึงเริ่มมีปัญหา เพราะโรงพิมพ์รับพิมพ์การ์ดส่วนใหญ่จะต้องให้พิมพ์แบบมีจำนวนขั้นต่ำตามกำหนด แล้วจะหาทางออกในเรื่องนี้อย่างไร เรามีคำแนะนำในเรื่องนี้มาฝาก

พิมพ์การ์ดไม่มีขั้นต่ำ โรงพิมพ์ออนดีมานด์ช่วยคุณได้

ในสมัยก่อนการรับพิมพ์หนังสือหรือรับพิมพ์ปฏิทิน รวมถึงการ์ดเชิญต่าง ๆ จะต้องมีการสั่งทำจำนวนมาก ๆ เท่านั้น ทางโรงพิมพ์ถึงจะทำให้ แต่ในวันนี้ลูกค้าหรือผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น โรงพิมพ์หลายแห่งมีการเพิ่มการบริการงานพิมพ์ตามจำนวนที่ลูกค้าใช้จริงมาด้วย เปลี่ยนรูปแบบเป็นโรงพิมพ์ออนดีมานด์พิมพ์งานต่าง ๆ แบบไม่จำเป็นต้องมีขั้นต่ำ จะพิมพ์หนังสือ 1 – 2 เล่มพิมพ์การ์ดไม่กี่สิบใบทางโรงพิมพ์ก็ยินดีและพร้อมที่จะทำตามความต้องการของลูกค้า ทำให้เป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคนที่ต้องการพิมพ์การ์ดเชิญแบบประหยัดงบประมาณ

พิมพ์งานออนดีมานด์ บริการที่ดีต่อทุกฝ่าย

ปัจจุบันธุรกิจโรงพิมพ์มีการปรับกลยุทธ์หันมาเจาะตลาด เน้นทำงานพิมพ์ตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ด้วยเพราะผู้ประกอบการต่างเข้าใจดีว่าโลกและสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไป ทำให้โรงพิมพ์หลาย ๆ แห่งในวันนี้หันมารับงานตามจำนวนที่ลูกค้าต้องการเป็นลักษณะโรงพิมพ์ออนดีมานด์กันมากขึ้น และการปรับการให้บริการแบบนี้นอกจากจะดีต่อธุรกิจโรงพิมพ์เองแล้วยังดีต่อลูกค้าผู้บริโภคด้วย เพราะลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น ไม่จำเป็นที่จะต้องสิ้นเปลืองสั่งพิมพ์งานจำนวนมาก ๆ แล้วไม่ได้ใช้ แบบนี้ก็ช่วยเซฟเงินไปได้เยอะ ไม่เพียงแค่นั้นยังเป็นการช่วยเซฟทรัพยากรธรรมชาติไปได้เยอะอีกด้วย

ตอนนี้ทุกคนคงทราบแล้วว่าถ้าจะพิมพ์การ์ดเชิญแบบประหยัดควรทำอย่างไร และหากใครต้องการจะพิมพ์การ์ดเชิญแบบไม่มีขั้นต่ำเช่นนี้ VIP Scan process โรงพิมพ์สาธุประดิษฐ์ที่เชี่ยวชาญในเรื่องงานพิมพ์ยินดีที่จะให้บริการคุณเสมอ เราทำได้ทั้งงานออฟเซ็ทและงานออนดีมานด์ รับรองเรื่องคุณภาพและราคาที่คุณจะต้องพอใจ

โรงพิมพ์ไม่มีขั้นต่ำ รูปแบบการปรับตัวของธุรกิจโรงพิมพ์ที่สอดคล้องกับยุคสมัย

การเข้ามาของเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างที่เคยเป็นสิ่งจำเป็นกลายเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามไปในทันที ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ สื่อสิ่งพิมพ์ที่นับวันคนเริ่มจะเห็นบทบาทความสำคัญน้อยลงไป ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงพิมพ์ต้องปรับกลยุทธ์รูปแบบหนึ่งในการปรับกลยุทธ์ของธุรกิจโรงพิมพ์ที่มีความน่าสนใจก็คือ การปรับรูปแบบมาเป็นโรงพิมพ์ไม่มีขั้นต่ำ พิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ แบบออนดีมานต์ ทำตามความต้องการของลูกค้า และด้วยกลยุทธ์การปรับตัวแบบนี้ ทำให้ธุรกิจโรงพิมพ์ยังคงอยู่ได้และไม่มีวันจะหายไป

โรงพิมพ์ออนดีมานด์ กลยุทธ์ใหม่เน้นเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม

จริงอยู่ว่าในปัจจุบัน สื่อสิ่งพิมพ์อาจจะถูกลดบทบาทลง โรงพิมพ์หลาย ๆ แห่งเมื่อเจอการแทรกแซงของเทคโนโลยีดิจิทัลแบบนี้ จึงต้องปรับตัวกันยกใหญ่เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดและไปต่อได้ จากที่เคยรับพิมพ์งานแบบออฟเซ็ทเน้นจำนวนมาก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนมาเป็นโรงพิมพ์ออนดีมานด์ พิมพ์งานตามจำนวนที่ลูกค้าต้องการ เทคโนโลยีดิจิทัลอาจดูเป็นอุปสรรคของธุรกิจโรงพิมพ์ก็จริง แต่ในอีกด้านหนึ่งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลเอง ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้ธุรกิจโรงพิมพ์สามารถเอาตัวรอดได้ เพราะทำให้มีเทคโนโลยีการพิมพ์แบบใหม่ ๆ ที่พิมพ์งานได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น

มีคนหลายกลุ่มยังคงให้ความสำคัญกับสื่อสิ่งพิมพ์อยู่ ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มแฟนคลับของดารานักร้อง ก็ยังคงมีความต้องการหนังสืออัลบั้มภาพของศิลปิน โปสเตอร์ของศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบอยู่ เป็นต้น และผู้ประกอบการธุรกิจโรงพิมพ์ได้เล็งเห็นความต้องการของตลาดในส่วนนี้ แม้จะเป็นส่วนเล็ก ๆ แต่ก็มีความสำคัญ โรงพิมพ์หลายแห่งจึงปรับตัวมาเป็นโรงพิมพ์ไม่มีขั้นต่ำ รับผลิตสื่อสิ่งพิมพ์เพื่อตอบโจทย์ตลาดในกลุ่มเล็ก ๆ นี้ อย่าง รับพิมพ์โปสเตอร์ หนังสือที่ระลึก อัลบั้มภาพ ตามจำนวนที่กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ต้องการ แม้จะพิมพ์ต่อครั้งจำนวนไม่มาก แต่ความต้องการจะมีเข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้ธุรกิจโรงพิมพ์ยังคงเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง

สื่อสิ่งพิมพ์ Never Die

บทบาทและความสำคัญของสื่อสิ่งพิมพ์ยังมีอยู่ในหลายแง่มุม ทั้งในเชิงการตอบสนองความต้องการเฉพาะกลุ่ม หรือในเชิงความจำเป็นในแง่ของธุรกิจอุตสาหกรรม เพราะความจริงแล้วภาคธุรกิจยังคงต้องอาศัยสื่อสิ่งพิมพ์เป็นปัจจัยหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วย อย่างการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ การพิมพ์ฉลากและป้ายสินค้า สิ่งเหล่านี้ยังเป็นเรื่องที่จำเป็น

ใช่เพียงว่าจะสำคัญเฉพาะกับธุรกิจอุตสาหกรรมที่ผลิตจำนวนมาก ๆ เท่านั้น ธุรกิจขนาดเล็ก ที่ต้องการสั่งพิมพ์บรรจุภัณฑ์จำนวนน้อย ๆ เพื่อประหยัดต้นทุนธุรกิจ การมีโรงพิมพ์ออนดีมานด์แบบนี้ก็ตอบโจทย์ได้ลงตัวกับความต้องการ ตรงนี้จึงสะท้อนว่าสื่อสิ่งพิมพ์และธุรกิจโรงพิมพ์ถึงอย่างไรแล้วก็ยังคงมีความสำคัญ และจะยังคงอยู่คู่กับสังคมแบบนี้ไปอีกนาน

ทั้งหมดนี้เป็นภาพสะท้อนการปรับตัวของธุรกิจโรงพิมพ์ ที่จัดได้ว่าเป็นการปรับตัวที่สอดรับกับเทรนด์ที่เกิดขึ้นได้อย่างลงตัว เข้ากับยุคสมัย และหากท่านใดกำลังมองหาโรงพิมพ์สักแห่งที่จะช่วยพิมพ์โปสเตอร์ พิมพ์ป้ายสินค้า หรือรับพิมพ์นามบัตร ให้กับคุณได้ตามจำนวนที่ต้องการใช้จริง และพิมพ์งานได้รวดเร็ว VIP Scan process โรงพิมพ์ไม่มีขั้นต่ำ พร้อมเป็นทางเลือกสำหรับคุณเสมอ

ใครอยากมีหนังสือเป็นของตนเองต้องรู้ ทำหนังสือ 1 เล่มมีขั้นตอนอะไรบ้าง

เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะเริ่มต้นจากการเป็นคนชอบอ่าน พออ่านไปเยอะ ๆ นานวันเข้าก็คงเริ่มที่จะลองเขียนงานเองบ้าง พอได้ทดลองเขียนบางคนก็เริ่มสนุก จนเกิดความคิดว่าถ้ามีหนังสือเป็นผลงานของตนเองสักเล่มก็คงดี และเดี๋ยวนี้ใครก็สามารถทำหนังสือขายเองได้แล้ว เพราะมีโรงพิมพ์ออนดีมานด์เป็นผู้ช่วย ที่รับพิมพ์หนังสือ (ไม่มีขั้นต่ำ 1 เล่มก็ทำได้) ไม่ว่าจะเป็นหนังสือนิยาย วรรณกรรมเยาวชน หรืออัตชีวประวัติก็สามารถจัดทำเอง พิมพ์เองขายเองได้ ไม่จำเป็นต้องไปเสนอสำนักพิมพ์เองอีกต่อไป

แต่ถึงแม้เราจะมีโรงพิมพ์ออนดีมานด์ที่พร้อมพิมพ์งานตามจำนวนที่เราต้องการ ช่วยให้เราขายงานเองได้ง่ายขึ้นก็ตาม แต่หลายคนไม่เคยมีประสบการณ์การทำหนังสือเองมาก่อน จึงไม่รู้ว่า ขั้นตอนต่าง ๆ ในการทำหนังสือนั้นมีอะไรบ้าง ครั้งนี้เราจึงจะมาสรุปให้ได้ทราบกัน บอกเลยว่าง่ายกว่าที่คิดเยอะ

1.ต้นฉบับ จุดเริ่มต้นที่สำคัญ

การจะทำหนังสือเป็นของตนเอง เอาไว้ขายเองสำคัญที่สุดเลยก็คือ เรื่องของการเขียนต้นฉบับ แม้ว่าวันนี้จะสามารถหาผู้ช่วยที่เป็นนักเขียนเก่ง ๆ ผ่านการจ้างงานแบบฟรีแลนซ์ได้ก็ตาม แต่นั่นก็หมายถึงว่าผลงานนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวคุณเอง 100% ดังนั้น ถ้าคิดจะเป็นนักเขียนมีผลงานของตนเอง ต้องเริ่มต้นจากการเขียนต้นฉบับเองจะดีที่สุด ถ้าทำต้นฉบับได้ อย่างอื่นก็บอกเลยว่าไม่ยากแล้ว

2.ตรวจทานและแก้ไข

จุดนี้ก็สำคัญเช่นกัน อย่างที่กล่าวไปว่าวันนี้เรามีที่รับพิมพ์หนังสือ (ไม่มีขั้นต่ำ 1 เล่มก็ทำได้) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ช่วยทำให้เราขายผลงานตามจำนวนลูกค้าได้อย่างสะดวก แต่งานชิ้นนั้นต่อให้เรื่องราวภายในจะดีเพียงไร ถ้าเต็มไปด้วยข้อบกพร่อง มีคำสะกดผิดเต็มไปหมด หนังสือเล่มนั้นก็คงไม่ใช่สุดยอดผลงานอย่างที่คุณหรือใครต้องการแน่นอน ดังนั้น ก่อนที่จะส่งไปตีพิมพ์ต้องตรวจทานให้แน่ใจก่อนว่า ต้นฉบับสมบูรณ์และไม่มีข้อบกพร่องใด ๆ แล้ว

3.จัดหน้ากระดาษและออกแบบรูปเล่ม

เมื่อเป็นหนังสือของเราเอง ก็สามารถที่จะออกแบบใส่รูปภาพต่าง ๆ เองได้ตามที่ต้องการ ชอบแบบไหนก็ใส่ลงไปได้อย่างที่เป็นตัวเรา แต่จุดที่สำคัญก็คือ ต้องอย่าลืมออกแบบเผื่อในเรื่องของระยะตัดตกเอาไว้ด้วย เพราะโรงพิมพ์เขาจะพิมพ์จากกระดาษแผ่นใหญ่ ๆ แล้วนำกระดาษมาตัด จากนั้นค่อยนำมาเข้ารูปเล่มเป็นหนังสือ ถ้าไม่แน่ใจลองให้โรงพิมพ์ออนดีมานด์ที่เราติดต่อเอาไว้ช่วยในเรื่องนี้ก็ได้ ก็จะทำให้หนังสือออกมาอยู่ในมือผู้อ่านอย่างสมบูรณ์แบบ

นี่คือ 3 ขั้นตอนหลัก ๆ ที่ต้องทำสำหรับคนที่ต้องการทำหนังสือสัก 1 เล่มเป็นของตนเอง ใครที่ชอบขีด ๆ เขียน ๆ ต้องการทำหนังสือไว้ขายเอง และอยู่ไม่ไกลจากย่านสาธุประดิษฐ์ แวะมาพูดคุยขอคำปรึกษาเรื่องการทำหนังสือกับเรา VIP Scan processได้ เราเป็นโรงพิมพ์สาธุประดิษฐ์ที่มากประสบการณ์ พร้อมพิมพ์งานแบบออนดีมานด์ให้คุณเสมอ รับรองราคาสบาย ๆ สไตล์กันเอง งานดีและไม่แพงอย่างที่คิดแน่นอน

ในวันนี้ทุกคนสามารถที่จะมี Pocket Book เป็นของตนเองกันได้ไม่ยาก เพราะในปัจจุบันมีโรงพิมพ์ที่เป็นโรงพิมพ์ไม่มีขั้นต่ำ สามารถพิมพ์หนังสือ หรือสื่อสิ่งพิมพ์อื่น ๆ ตามจำนวนที่ต้องการได้ โดยที่ไม่ต้องทำเพลท บางคนสนใจที่จะทำ Pocket Book เอาไว้เป็นหนังสือที่ระลึกหรือทำไว้เป็นเกียรติประวัติสำหรับบุคคลสำคัญ พอเขียนต้นฉบับเสร็จเรียบร้อยก็ลองออกแบบรูปเล่ม แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้คนมักจะพลาดไปในการออกแบบหนังสือที่ทำเองก็คือ เรื่องของระยะตัดตก สิ่งนี้คืออะไรและสำคัญอย่างไร มาหาคำตอบกัน

รู้จักกับ ระยะตัดตก

ก่อนอื่นเลยก็ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า โรงพิมพ์ทุกแห่งไม่ว่าจะเป็นโรงพิมพ์เก่าแก่หรือโรงพิมพ์ยุคใหม่ที่เป็นโรงพิมพ์ราคาถูกก็ตาม ระบบการพิมพ์งานโดยเฉพาะการพิมพ์หนังสือนั้น จะใช้การพิมพ์ผ่านกระดาษแผ่นใหญ่ ๆ แล้วนำกระดาษมาตัดด้วยเครื่องตัดกระดาษก่อน จึงนำมารวมเล่มเป็น Pocket Book เมื่อต้องมีการตัดกระดาษ จึงต้องมีระยะขอบของการตัด โดยระยะตัดตกก็คือ ระยะที่แบ่งว่าการตัดกระดาษจะเริ่มตรงพื้นที่ไหนของกระดาษ โดยจะมีการกำหนดเส้นระหว่างพื้นที่ขอบกระดาษที่อยู่ด้านในและด้านนอกของพื้นที่งาน ซึ่งพื้นที่ที่อยู่เลยเส้นแบ่งตรงส่วนนี้ออกไปด้านนอกพื้นที่งานก็จะเป็นส่วนที่จะถูกตัดออกไปนั่นเอง

จะออกแบบหนังสือ ต้องคำนึงเรื่องระยะตัดตก

ถ้าหากว่าคุณออกแบบหนังสือ Pocket Book เอง จำเป็นอย่างมากที่จะต้องคำนึงถึงเรื่องของระยะตัดตกในหน้ากระดาษ เพราะมิเช่นนั้น ในช่วงระหว่างการตัดกระดาษตัวอักษรหรือภาพที่ออกแบบมาอาจถูกตัดออกไปได้ ทำให้หนังสือไม่สมบูรณ์ หลักการง่าย ๆ ที่โรงพิมพ์ราคาถูกที่ได้มาตรฐานใช้กันเวลาออกแบบทำหนังสือก็คือ กำหนดพื้นที่หน้ากระดาษที่จะใส่ตัวอักษรหรือภาพเข้ามาจากขอบทุกด้าน 3 มม. ไม่ว่าจะใส่เป็นตัวอักษร ภาพประกอบ โลโก้หรืออะไรก็ตาม ก็ให้อยู่ในกรอบพื้นที่ทำงานนี้อย่าให้เลยออกไป

ส่วนกรณีที่ต้องการให้ภาพอยู่ชิดริมขอบด้านบนหรือด้านล่าง หรือจะใส่ภาพเป็นพื้นหลัง ก็ต้องมีการคำนวณขนาดของภาพให้เผื่อขอบที่จะต้องถูกตัดไปด้วย ยึดหลักที่ว่าให้จุดโฟกัสของภาพอยู่ในพื้นที่ของงานก็จะช่วยให้ออกแบบเผื่อระยะตัดตกได้ง่ายขึ้น วิธีนี้โรงพิมพ์ที่รับพิมพ์จำนวนมาก รวมถึงโรงพิมพ์ไม่มีขั้นต่ำต่างแนะนำ ก็จะทำให้หนังสือพิมพ์และรวมเล่มออกมาได้สมบูรณ์

รู้จักระยะตัดตกกันแล้ว เวลาออกแบบ Pocket Book เอง ก็อย่าลืมตรงจุดนี้ด้วย และหากว่าคุณต้องการหาที่รับพิมพ์หนังสือ (ไม่มีขั้นต่ำ 1 เล่มก็ทำได้) สำหรับทดลองทำตัวอย่างหนังสือต้นฉบับพิมพ์จำนวนน้อย ๆ ก่อน VIP Scan process โรงพิมพ์ไม่มีขั้นต่ำสามารถช่วยคุณได้ เรายินดีที่จะพิมพ์หนังสือตามจำนวนที่คุณต้องการ และถ้าไม่แน่ใจเรื่องการออกแบบระยะตัดตก ก็สามารถขอคำแนะนำหรือให้ทางเราช่วยเหลือก็ได้ เรายินดีและพร้อมบริการลูกค้าทุกคนอย่างดีที่สุดเสมอ

หลายคนอาจเคยไปใช้บริการโรงพิมพ์ที่รับพิมพ์แผ่นพับหรือโบรชัวร์ต่าง ๆ แต่รู้สึกไม่ประทับใจเท่าที่ควร เพราะว่าสีของงานที่พิมพ์ออกมาทำให้รู้สึกขัดใจ ออกแบบไว้ในคอมพิวเตอร์ก็มั่นใจแล้วว่า เฉดสีถูกต้อง สีดูสดดี แต่เวลาร้านรับพิมพ์โบรชัวร์ พิมพ์งานออกมาเป็นจริง ๆ กลับให้สีที่ดูไม่สดเท่ากับที่เห็นในคอมพิวเตอร์ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น มาหาคำตอบกันเลย

เข้าใจเรื่องระบบสีให้ดีก่อนสั่งงานพิมพ์

เหตุที่โรงพิมพ์ที่รับพิมพ์แผ่นพับหรือโบรชัวร์ต่าง ๆ พิมพ์งานเป็นกระดาษออกมาแล้ว สีที่ได้อาจจะดูไม่สดเหมือนที่เห็นผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ นั่นก็เพราะว่า ระบบสีของงานพิมพ์ที่ใช้ในโรงพิมพ์ต่าง ๆ นั้น จะเป็นอีกแบบหนึ่ง โดยระบบสีหรือแม่สีที่ใช้กับจอคอมพิวเตอร์นั้น จะเป็นสีระบบ RGB ส่วนระบบสีที่ใช้ในโรงพิมพ์ แม้จะเป็นโรงพิมพ์ออนดีมานด์ก็ตาม จะใช้เป็นระบบ CMYK ด้วยระบบแม่สีที่ต่างกันนี่เอง จึงทำให้เวลาสั่งพิมพ์งานออกมา ความสดของสีจึงลดลงจากที่เราเห็นผ่านจอคอมพิวเตอร์

ความแตกต่างระหว่าง RGB VS CMYK

ระบบสีแบบ RGB

ระบบสีแบบนี้จะมีที่มาจากการนำแม่สีหลัก 3 สี นั่นคือ แดง เขียว และน้ำเงิน มาผสมกัน โดยจะเป็นการผสมสีกันบนจอภาพ โดยสีจะมีการปรับความเข้ม ความสดไปตามปริมาณของแสงที่อยู่ภายในจอภาพ ถ้าจอมีแหล่งกำเนิดแสงหลายจุด เป็นจอที่มีคุณภาพสูง สีที่ได้ออกมาก็จะยิ่งดูสดใสคมชัด เมื่อเป็นเช่นนี้ สีสันที่เกิดขึ้นนั้นจึงเป็นสีที่เราจะเห็นได้ผ่านจอภาพเท่านั้น ระบบสีแบบ RGB จึงไม่ใช่ระบบสีที่โรงพิมพ์ที่รับพิมพ์โบรชัวร์ต่าง ๆ นำมาใช้ เพราะไม่เหมาะกับการพิมพ์ แต่ระบบสีแบบนี้เหมาะจะใช้กับงานที่ต้องนำเสนอผ่านหน้าจอต่าง ๆ อย่าง ใช้ออกแบบทำเว็บไซต์ ทำการนำเสนอผลงาน รวมถึงงานกราฟิกแอนิเมชันต่าง ๆ

ระบบสีแบบ CMYK

ระบบสีแบบนี้จะเกิดจากการผสมกันของสี 4 สีนั่นคือ สีเหลือง สีชมพู สีฟ้าและสีดำ ด้วยการที่เวลาเราพิมพ์งานต่าง ๆ ลงบนกระดาษ พื้นกระดาษจะเป็นสีขาว บวกกับเมื่อหมึกสีเหลือง สีชมพู สีฟ้า มาผสมกันสีที่ออกมาจะไม่ค่อยบริสุทธิ์ จึงต้องมีการนำสีดำมาช่วยเป็นฐานของการผสมสี ตรงนี้จะเห็นว่าการผสมสีสำหรับการพิมพ์งานออกมาผ่านเครื่องพิมพ์นั้นจะมีความซับซ้อนกว่า แต่ก็เป็นระบบสีที่เหมาะสมที่สุดกับการใช้ทำงานสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด ไม่ว่าจะพิมพ์นามบัตร พิมพ์หนังสือ หรือรับพิมพ์แผ่นพับก็ตามแต่ ทั้งหมดก็จะอยู่ในระบบสีทั้งนั้น

ดังนั้น ถ้าคุณต้องการจะสั่งพิมพ์งานสื่อสิ่งพิมพ์อะไรก็ตาม แนะนำว่าตอนออกแบบให้ออกแบบสีในระบบสีแบบ CMYK เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้เวลาพิมพ์งานออกมาเป็นกระดาษจริง ๆ สีจะตรงตามที่เห็นผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกประการ และหากคุณกำลังมองหาโรงพิมพ์ออนดีมานด์ที่รับพิมพ์งานหลากหลายรูปแบบตามจำนวนที่ใช้จริงแบบไม่มีขั้นต่ำ VIP Scan process พร้อมและยินดีที่จะให้บริการคุณเสมอ คุณภาพงานพิมพ์ได้มาตรฐานรับรองคุณต้องพอใจ

ปัจจุบันแม้เราจะมีอุปกรณ์เทคโนโลยีเอาไว้ใช้จดบันทึกแทนสมุดต่าง ๆ แล้วก็ตาม แต่ถึงอย่างไรเสน่ห์ของสมุดจดบันทึกต่าง ๆ ก็ยังอยู่ เพราะสมุดบันทึกไม่ได้มีคุณค่าแค่การใช้จดบันทึกเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เป็นของขวัญ ของที่ระลึกที่มอบให้กันในโอกาสสำคัญ ๆ ได้ด้วย วันนี้หลาย ๆ โรงพิมพ์ที่เป็นโรงพิมพ์ไม่มีขั้นต่ำ ก็ยังคงมีงานพิมพ์สมุดบันทึกแบบนี้เข้ามาเรื่อย ๆ อันเป็นการสะท้อนว่าสมุดจดบันทึกยังคงมีความสำคัญอยู่

หากว่าคุณก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องการให้โรงพิมพ์ไม่มีขั้นต่ำสักแห่งพิมพ์สมุดจดบันทึกที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แตกต่างและไม่เหมือนใคร เพื่อจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกเองหรือจะนำไปมอบให้คนสำคัญของคุณเองก็ตาม ก่อนที่จะเริ่มให้โรงพิมพ์ช่วยพิมพ์สมุดให้ก็ควรรู้ก่อนว่า กระดาษที่ใช้ทำสมุดจดบันทึกที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันไม่ได้มีอยู่แบบเดียว แต่มีอยู่ถึง 3 แบบด้วยกัน จะมีแบบไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย

1.กระดาษใยหิน

เนื้อกระดาษชนิดนี้ถูกผลิตขึ้นจากวิทยาการสมัยใหม่ นำแร่ใยหินมาประยุกต์ทำเป็นเนื้อกระดาษ เป็นหนึ่งรูปแบบเนื้อกระดาษที่เริ่มได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนนี้ กระดาษชนิดนี้จะมีคุณสมบัติทนไฟ นำความร้อนต่ำ มีความแข็งแกร่งและทนทานสูง ด้วยเพราะมีความทนทานมากนี่เอง จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาทำเป็นกระดาษของสมุดจดบันทึก หรือสมุดไดอารี่ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานไม่ต้องกังวลว่า จดบันทึกเขียนสิ่งต่าง ๆ ลงในสมุดแล้ว ตัวกระดาษจะเปื่อยหรือฉีกขาดไปตามกาลเวลา โรงพิมพ์มาตรฐานที่เป็นโรงพิมพ์ราคาถูกหลาย ๆ แห่ง จึงนำกระดาษชนิดนี้มาใช้เพื่อพิมพ์งานให้กับลูกค้าที่ต้องการสมุดจดที่มีความทนทาน

2.กระดาษไร้กรด (Acid Free)

เนื้อกระดาษแบบนี้มีใช้งานมานานพอสมควรแล้ว โดยมากส่วนงานอนุรักษ์ ห้องสมุดและงานสารสนเทศจะนำมาใช้กัน โดยจะนำเอกสารหายากทางประวัติศาสตร์ บันทึกโบราณต่าง ๆ มาแปลงและทำการพิมพ์ใส่กระดาษไร้กรดแบบนี้ เนื่องด้วยกระดาษชนิดนี้จะมีคุณสมบัติในเรื่องของความทนทาน ไม่เปลี่ยนสี ไม่เปราะไม่ฉีกขาดง่าย มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แตกต่างไปจากกระดาษทั่วไปที่เป็นกระดาษที่มีความเป็นกรด สีจะเปลี่ยนกระดาษจะเปราะและฉีกขาดง่ายไปตามกาลเวลา เนื้อกระดาษไร้กรดจึงเป็นอีกหนึ่งชนิดที่ โรงพิมพ์มาตรฐานที่เป็นโรงพิมพ์ราคาถูกนำมาใช้พิมพ์เป็นสมุดจดบันทึกให้กับผู้ที่ต้องการสมุดจดที่ไม่เหมือนใครนั่นเอง

3.กระดาษผิวเรียบเนียน (Acid Free Smooth)

เป็นเนื้อกระดาษที่พัฒนาต่อมาจากเนื้อกระดาษชนิดที่ 2 โดยเพิ่มคุณสมบัติเรื่องของความเรียบเนียนของผิวกระดาษลงไป เป็นการออกแบบพัฒนาเพื่อให้นำมาใช้เขียนและจดโดยเฉพาะ กระดาษแบบนี้จะมีความเหนียว แม้จะเป็นคนกดปากกาหนัก ๆ หรือใช้ปากกาหัวแหลม ๆ จดลงไปในหน้ากระดาษ ตัวกระดาษก็จะไม่ทะลุ ทำให้เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่เหมาะสำหรับการทำสมุดจดอย่างมาก

นี่คือ เนื้อกระดาษทั้ง 3 แบบที่คุณควรรู้จักไว้ หากต้องการพิมพ์สมุดบันทึกไว้สำหรับการใช้งานส่วนตัวหรือไว้เป็นของขวัญให้กับคนพิเศษ และถ้าคุณต้องการโรงพิมพ์ราคาถูกที่พร้อมรับพิมพ์สมุดบันทึกแบบออนดีมานด์ รับพิมพ์หนังสือ (ไม่มีขั้นต่ำ 1 เล่มก็ทำได้) VIP Scan process พร้อมเป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับคุณเสมอ นึกถึงสมุดบันทึกแสนพิเศษให้นึกถึงเรา ราคาเบา ๆ และบริการคุณอย่างเป็นกันเอง